ดิเอโก มาราโดนา

ชื่อเต็ม ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดน่า (diego maradona) 

วันเกิด 30 ตุลาคม ค.ศ. 1960

สถานที่เกิด ลานุส บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

วันเสียชีวิต 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 (60 ปี)

สถานที่เสียชีวิต ติเกร บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

ส่วนสูง 1.65 เมตร (5 ฟุต 5 นิ้ว)

ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก / กองหน้าตัวต่ำ

ดิเอโก  มาราโดน่า จุดเริ่มต้นของ เสือเตี้ย ชายผู้เป็นตำนานของลูกหนังฟุตบอล 

ดิเอโก  มาราโดน่า (diego maradona) ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมปี 1960 เมืองทางตอนใต้ของ กรุงบัวโนสไอเรส เป็นบุตรคนที่ 5 จากครอบครัวที่ยากจน และมีลูกถึง 8 คนจากนั้น มาโตในชุมชนแออัด จากการเล่นฟุตบอล กับผองเพื่อนของเขา ฝีเท่าของเขา แตะตาแมวมอง ของสโมสร อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ตั้งแต่ 8 ขวบ เขาจึงถูกนำตัวมาอยู่ในชุด ทีมเยาวชนของสโมสร ก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ของอาร์เจนติโนสจูเนียร์ส ในปี 1976 ลงเล่นนัดแรกทีมชุดใหญ่ อายุครบ 16 ปี กับอีก 10 วัน

จากนั้น ในปี 1981 ซึ่งชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เขาย้ายไปอยู่กับ โบค่า จูเนียร์ สโมสรที่ทำให้เขา ได้แชมป์ อาร์เจนตินาครั้งแรก และครั้งเดียวในอาชีพของเขา อยู่กับโบค่าเพียง 1 ฤดูกาล ก็ขึ้นฝั่งแผ่นดินยุโรป ย้ายมา บาร์เซโลน่า หลังฟุตบอลโลกปี 1982 ด้วยค่าตัวสถิติโลกใหม่ ในขณะนั้นคือราว 5 ล้านปอนด์ กับ บาซ่า เขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก

อีกทั้งเคยยอมรับว่าเริ่มเสพโคเคนที่นั่น มาราโดนา อยู่กับบาซ่าได้เพียง 2 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายไปนาโปลีด้วยค่าตัวสถิติโลกมาอีกครั้งเช่นกัน ราว 6.9 ล้านปอนด์ ในสีเสื้อของนาโปลีนั้นเองที่ มาราโดน่า  ประสบความสำเร็จสูงสุด ในอาชีพค้าแข้ง

ดิเอโก มาราโดนา

จุดสูงสุดของ นาโปลี นำทีมโดย ดิเอโก มาราโดน่า คว้าแชมป์ เป็นประวัติศาสตร์สโมสร

เขานำทัพ คว้าแชมป์ เซเรีย อา อิตาลี ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ในปี 1987 ซึ่งเป็นปีที่ ได้แชมป์ โคปปา อิตาเลีย ควบคู่อีกด้วยจากนั้นในฤดูกาล 1988 – 1989 ช่วยให้ นาโปลี ได้ชูถ้วย ยูฟ่าคัพ หรือ ยูโรปาลีก ก่อนที่ปีต่อมา นาโปลีจะคว้า สคูเด็ตโต้ ใบที่ 2 ได้สำเร็จจนถึงปัจจุบันนาโปลียังไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลีเพิ่มอีกเลยและทางสโมสรได้ปลดระวางเสื้อเบอร์ 10 ของเขาหลังการย้ายออกไปของ มาราโดน่า

ต้องโทษแบน จากการลงสนาม 15 เดือน เนื่องจาก ไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น หรือสารต้องห้าม ซึ่งก็คือ โคเคน หลังเกม นาโปลี พบ บาลี ในเดือน มีนาคม ปี 1991 เขาย้ายออกจาก นาโปลีในปี 1992 และอยู่ในช่วงขาลงมาโดยตลอด ทั้งกับ เซบีย่า  ก่อนกลับสู่ โบค่า อีกครั้ง กระทั่ง แขวนสตั๊ด ในปี 1997

ช่วงเวลาที่โลดแล่นในวงการฟุตบอล ไปจนถึงการใช้ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด มาราโดน่า มักจะมีข่าวฉ่าว ออกมาอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับ เปเล่ ตำนานทีมชาติ บราซิล ซึ่งทั้งคู่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันว่า ใครเก่งที่สุดตลอดกาล สำหรับเขา ข่าวที่ออกมาไม่เคยทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว และเจ้าตัวเคยกล่าวทิ้งว่า “ตัวผมมีแค่ ขาวกับดำ ผมไม่เคยมี สีเทา”

ดิเอโก มาราโดนา

แชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกของ อาร์เจนติน่า กับประตูในตำนาน

ตำนานฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกอาร์เจนติน่า ชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1982 ประเทศ สเปนซึ่งเขาต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด โดย เสือเตี้ย โดนแนวรับคู่แข่ง อัดอย่างเมามันส์ สุดท้ายเจ้าตัวโดนใบแดง ในขณะที่ ทัพฟ้าขาว ร่วงตกรอบ โดย บราซิลอย่างไรก็ตาม 4 ปี ให้หลัง เขากลับมาพงาดอีกครั้ง กับทัวนาเมนท์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เค้าระเบิดฟอร์มเทพเจ้า ร่ายมนต์ ลูกหนัง จนคู่แข่งไม่สามารถรับมือได้ ที่สำคัญ ในเกมส์พบอังกฤษ รอบก่อนรองชนะเลิศ เขายิงประตูที่โลกไม่มีวันลืมจนถึงทุกวันนี้และในอนาคต นั้นคือ หัตถ์พระเจ้า อันเลื่องลือ

อย่างไรก็ตาม ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็นยอดนักฟุตบอลระดับโลกโดยการเลี้ยงบอลขึ้นสนาม 6 คนรวมถึงผู้รักษาประตู อย่างชิลตันด้วยก่อนที่จะส่งบอลสู่ก้นตาข่าย ประตูนี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ยกให้เป็นประตูแห่งศตวรรษ แน่นอนประตูลากเดี่ยว เป็นสิ่งที่กล่าวขาล จนถึงทุกวันนี้แต่จริงๆแล้วเขายังโชว์ลีลาเลี้ยงคู่แข่งอีกเกมส์ ที่ชนะเบลเยียมแม้จะไม่สวยเท่ากัน

แต่ก็เป็นลีลาเลี้ยงหลบแนวรับของ ปีศาจแดงแห่งยุโรปถึง 4 คนก่อนเข้าไปยิงให้ทีมชนะรอบรองชนะเลิศ ซึ่งบทสรุปสุดท้ายก็ปราบเยอรมัน ตะวันตก ได้ 3 ประตูต่อ 2 คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลกมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

มาราโดนา

สิ่งสุดท้ายที่ ยอดนักเตะชาว อาร์เจนไตน์ ทิ้งไว้ให้กับคนในชาติ

นักฟุตบอลแห่งศตวรรษ ในปี 2000 ฟีฟ่า ได้ทำการโหวดผ่านสื่อออนไลน์และรับคะแนนโหวตมากถึง 54 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ เปเล่ ได้คะแนนโหวดเพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่สุดท้ายองค์กรลูกหนังโลก ประกาศให้ทั้งสองครองตำแหน่งร่วมกัน ทั้งนี้ในช่วงเกือบ 1 เดือนเต็มก่อนที่ มาราโดน่า จะจากโลกนี้ไป เขาได้มอบของขวัญที่ล้ำค่าอย่างมากกับคนในประเทศของตัวเอง

นั่นคือเข้าร่วมมือในโครงการด้านการกุศลที่ให้ความช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด แต่มันไม่ได้เป็นข่าวดังไปทั่วโลกมากนักจนทำให้มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าแสดงความใจกว้างแบบนี้ด้วยยิ่งไปกว่านั้นเขาแจกชุดแข่งของทีมชาติอาเจนติน่ามีข้อความของเขาเขียนอยู่บนนั้นมี 10 ตัวด้วย น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ไปร่วมงานเริ่ม Project ด้วยตัวเอง

“ด้วยความที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทำให้ผมไม่สามารถไปร่วมงานกันได้”

“แต่ตัวแทนของผมและเพื่อนของผม จะไปเป็นตัวแทนของผม เขาเหมาะกับเรื่องนี้สุดๆ เพราะเขากับโครงการนี้มาตั้งแต่แรก ผมมีความสุขมากๆ”


ติดตามข้อมูลข่าวสาร เพิ่มเติมได้ที่ : : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม : : ข่าวกีฬาออนไลน์